รวมรายชื่อซอฟต์แวร์บัญชี

โปรแกรมบัญชีเป็นองค์ประกอบสำคัญในการจัดการธุรกิจ และเป็นงานที่ต้องเริ่มดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้นจัดตั้งธุรกิจ การเลือกใช้ซอฟต์แวร์บัญชีที่เหมาะสม และสามารถรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต ตลอดจนสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลย ข้อกำหนดของกรมสรรพากร และกฎเกณฑ์ทางกฎหมาย จะช่วยส่งเสริมให้การดำเนินธุรกิจง่ายขึ้น ตลอดสามารถใช้ข้อมูลบัญชีเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน และการตัดสินใจ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันมากขึ้น

SME Station ขอแนะนำโปรแกรมบัญชีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ เอสเอ็มอี ร้านค้าทั่วไป และร้านค้าออนไลน์ ที่มีฟังก์ชั่นการทำงาน จุดเด่น ข้อจำกัด ราคา และระบบการทำงานเพื่อประกอบการเลือกใช้งานกันคะ

รายชื่อโปรแกรมบัญชี
รายชื่อโปรแกรมบัญชี

จากประสบการณ์การด้านบัญชี การวางระบบคอมพิวเตอร์ และการติดตั้งระบบบัญชีเพื่อรองรับการใช้งานในธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งในส่วนของระบบ ERP Enterprise Resource Planning เพื่อรองรับการทำงานของธุรกิจขนาดใหญ่ และการวางระบบคอมพิวเตอร์และโปรแกรมบัญชีเพื่อรองรับการทำงานของสำนักงานบัญชี และธุรกิจของลูกค้ามากกว่า 15 ปี พบว่า การพิจารณาเลือกโปรกรมบัญชีเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อความสำเร็จในการจัดการธุรกิจ

  1. ความต้องการของธุรกิจ
    • ขนาดของธุรกิจ: ธุรกิจขนาดเล็ก, กลาง หรือใหญ่ จะมีความต้องการโปรแกรมบัญชีที่ต่างกัน
    • ประเภทของธุรกิจ: ธุรกิจบริการ, การผลิต, การขายปลีก หรือธุรกิจอื่นๆ ต้องการฟีเจอร์เฉพาะ เช่น ธุรกิจการผลิต จำเป็นต้องมีระบบบัญชีที่รองรับการผลิต การคำนวณต้นทุนการผลิต และงานระหว่างทำ หากธุรกิจให้บริการแบบงานสั่งทำ หรือธุรกิจเช่าซื้อ ก็ควรเลือกโปรแกรมบัญชีที่สามารถรองรับความต้องการของธุรกิจด้วย
    • ลักษณะของธุรกิจ: ธุรกิจที่มีสาขาเดียว หรือธุรกิจที่จำเป็นต้องมีระบบบัญชีที่สามารถรองรับการให้บริการในระบบสาขา
    • การเลือกโปรแกรมบัญชี นอกจากจะพิจารณาถึงความต้องการในปัจจุบันแล้ว ควรพิจารณาถึงความสามารถในการรองรับความต้องการในอนาคต
  2. การทำงานของระบบ
    • ความสามารถในการทำงานผ่านระบบ Cloud ซึ่งจะทำให้สะดวกในการใช้งาน สามารถรองรับการทำงานจากภายนอกบริษัท และการทำงานผ่าน Work From Home
    • การทำงานผ่านพีซี หรือการทำงานผ่านระบบเครือข่าย
    • โปรแกรมบัญชีบางระบบ สามารถรองรับการทำงานหลากหลายรูปแบบในราคาที่แตกต่างกัน การเลือกซื้อโปรแกรมก็ควรพิจารณาเลือกซื้อโปรแกรมที่สอดคล้องกับความต้องการ รวมถึงการพิจารณาถึงเงื่อนไขในการ Upgrade เพื่อจัดหาโปรแกรมที่สอดคล้องกับความต้องการในปัจจุบัน เพื่อประหยัดงบประมาณ แต่สามารถ Upgrade ให้รองรับการขยายธุรกิจในภายหลัง
  3. ความสามารถและฟีเจอร์ของโปรแกรม
    • ขอบเขตการทำงานของโปรแกรมบัญชี และความสามารถในการจัดการระบบบัญชีย่อย
    • ความสามารถรองรับการออกงบการเงินรวม หรืองบการเงินของกลุ่มกิจการ (บริษัทใหญ่และบริษัทย่อย) การรองรับมาตรฐานบัญชีดังกล่าว
    • การจัดการผังบัญชี (Chart Of Account)
    • การบันทึกรายการบัญชี: วิธีการและช่องทางการบันทึก เช่น ผ่านระบบ Manual หรือรองรับการบันทึกรายการผ่านช่องทางการขายโดยอัตโนมัติ
    • การจัดการการเงิน: บันทึกรายรับรายจ่าย, การจัดการเงินสด, การจัดการบัญชีธนาคาร
    • การออกใบแจ้งหนี้: การสร้างและส่งใบแจ้งหนี้ที่สะดวก
    • การจัดการสินค้าคงคลัง: การติดตามและจัดการสินค้าคงคลัง การความสามารถในรองรับการคำนวณสินค้าคงคลังแบบต่าง ๆ
    • ความสามารถในการทำงานเชื่อมต่อกับระบบหน้าร้าน POS (Point Of Sale) และการขายผ่านช่องทางต่าง ๆ
    • ความสามารถในการทำงานเชื่อมต่อกับระบบส
    • รองรับมาตรฐานบัญชีที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ เช่น มาตรฐานบัญชีสำหรักิจการที่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (PubliclyAccountable Entities- PAEs) มาตรฐานบัญชีสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ (Non-Publicly Accountable Entities- NPAEs) ตลอดจนถึงมาตรฐานบัญชีที่เกี่ยวข้อง
    • การรายงาน: รายงานการเงิน, รายงานภาษี, รายงานอื่นๆ ที่จำเป็น
    • ความสามารถในการทำงานเชื่อมต่อกับระบบของกรมสรรพาการ (Leceipt) ซึ่งเป็นระบบจัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการทำงานกับระบบ e-Tax invoice และ e-Receipt เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสารให้ลูกค้า และความสามารถในการสร้างเอกสาร e-Tax ได้ทุกเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี
    • ความสามารถในการทำงานเชื่อมต่อกับระบบของกรมสรรพาการ (Leceipt) ซึ่งเป็นระบบจัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการทำงานกับระบบ e-Tax invoice และ e-Receipt เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสารให้ลูกค้า และความสามารถในการสร้างเอกสาร e-Tax ได้ทุกเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี
    • ความสามารถในการทำงานเชื่อมต่อกับระบบของกรมสรรพาการ (Leceipt) ซึ่งเป็นระบบจัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ รองรับการทำงานกับระบบ e-Tax invoice และ e-Receipt เพื่อลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเอกสารให้ลูกค้า และความสามารถในการสร้างเอกสาร e-Tax ได้ทุกเอกสาร ไม่ว่าจะเป็น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ ใบกำกับภาษี
  4. การใช้งานง่าย
    • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรต่อผู้ใช้
    • มีการสนับสนุนผู้ใช้และคู่มือการใช้งานที่ชัดเจน
  5. การรวมตัวกับระบบอื่น
    • ความสามารถในการรวมตัวกับโปรแกรมอื่นๆ ที่ธุรกิจใช้งาน เช่น ระบบ ERP, CRM
  6. ค่าใช้จ่ายและการประหยัดงบประมาณ
    • ค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์และการบำรุงรักษา
    • ความคุ้มค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากโปรแกรม
  7. ความปลอดภัยและการสำรองข้อมูล
    • ความปลอดภัยของข้อมูลการเงินและการปกป้องข้อมูลส่วนตัว
    • การสำรองข้อมูลอัตโนมัติและการคืนค่าข้อมูลในกรณีฉุกเฉิน
  8. การสนับสนุนและการอบรม
    • การสนับสนุนลูกค้าที่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา
    • การอบรมและการให้คำแนะนำในการใช้งานโปรแกรม
  9. ความพร้อมของผู้พัฒนาโปรแกรม
    • กิจการของผู้พัฒนาโปรแกรม มีความมั่นคงทางการเงิน มีความพร้อมในด้านบุคลากร สามารถรองรับการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนสามารถพัฒนาระบบเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยี มาตรฐานบัญชี ข้อกำหนดของกรมสรรพากร และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
    • การพิจารณาจาก Site Reference
  10. การทดสอบการทำงานของโปรแกรมบัญชี
    • แม้ว่าจะพิจารณาคัดเลือกโปรแกรมบัญชีเพื่อรองรับการทำงานของกิจการอย่างรอบคอบ แต่อาจไม่ได้เป็นหลักประกันที่เพียงพอว่า โปรแกรมบัญชีดังกล่าว สามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครบถ้วน ในการคัดเลือกโปรแกรมบัญชี อาจจำเป็นต้องทดสอบการใช้งานก่อนตัดสินใจเลือกซื้อโปรแกรมบัญชีดังกล่าว
  11. การพิจารณาความสามารถในด้านอื่น ๆ
    • นอกเหนือจากการพิจารณาความพร้อมในข้างต้น กิจการอาจพิจารณาความสามารถในการรองรับการใช้งานที่จำเป็น เช่น การสามารถในการย้ายข้อมูลบนระบบเก่าไปสู่ระบบงานใหม่ ความสามารถในการจัดทำรายงานเพิ่มเติมจากรายงานมาตรฐาน ผ่าน Report Writer หรือช่องทางอื่น เป็นต้น

รูปแบบการทำงานของโปรแกรมส่งผลกระทบต่อขอบเขตการใช้งาน งบประมาณ การ Upgrade ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา และการพัฒนาขีดความสามารถของโปรแกรมในอนาคต ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเลือกใช้โปรแกรมบัญชี โดยทั่วไป รูปแบบการทำงานของโปรแกรมบัญชี แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมบัญชีแบบออนไลน์ และโปรแกรมบัญชีแบบออฟไลน์

1. โปรแกรมบัญชีแบบออนไลน์

เป็นโปรแกรมบัญชีที่ประมวลผลบนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต โดยผู้ให้บริการโปรแกรมบัญชีออนไลน์จะเป็นผู้ลงทุนในเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และโปรแกรมบัญชีแทนลูกค้า โดยลูกค้าซึ่งเป็นผู้ใช้บริการจะจ่ายค่าเช่าบริการใช้โปรแกรมตามระดับการใช้งานเท่านั้น

ข้อดีของการใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ คือ ลูกค้าซึ่งเป็นผู้ใช้โปรแกรมบัญชี ไม่ต้องลงทุนในเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายในการดูแลและบำรุงรักษา การขยายระบบก็ไม่ต้องลงทุนเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และโปรแกรมบัญชีเพิ่ม เพียงแต่จ่ายค่าเช่าโปรแกรมเพิ่ม การใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ ยังทำให้สามารถเข้าถึงและใช้โปรแกรมบัญชีนอกสถานที่ (Anywhere Anytime) รวมถึงการใช้โปรแกรมผ่าน Work From Home

เนื่องจากหน้าที่ในการดูแลการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ การรักษาความปลอดภัยข้อมูลบัญชี การสำรองข้อมูล และความพร้อมในการให้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดเตรียมระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลสำรอง และการแก้ไขปัญหาในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรมบัญชีขัดข้อง อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ให้บริการ ในการพิจารณาคัดเลือกผู้ให้บริการจึงควรพิจารณาความพร้อมของผู้ให้บริการในเรื่องดังกล่าวด้วย

2. โปรแกรมบัญชีแบบออฟไลน์

เป็นโปรแกรมบัญชีที่ประมวลผลบนเครื่องคอมพิวเตอร์ / เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของลูกค้า ผู้ใช้บริการโปรแกรมบัญชีออฟไลน์จะเป็นผู้ลงทุนในเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และซื้อขาดโปรแกรมบัญชี โดยลูกค้าซึ่งเป็นผู้ใช้บริการจะลงทุนในฮาร์ดแวร์ และโปรแกรมซึ่งเป็นเงินก้อนใหญ่ในครั้งแรก และได้สิทธิ์การใช้โปรแกรมดังกล่าวโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่ารายเดือน แต่ยังมีภาระค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ และค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคลากรด้านไอที

ข้อดีของการใช้โปรแกรมบัญชีออฟไลน์ คือ ลูกค้าซึ่งเป็นผู้ใช้โปรแกรมบัญชี จะลงทุนเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และซื้อขาดโปรแกรมบัญชีซึ่งเป็นการลงทุนก้อนใหญ่ในครั้งแรก
โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าโปรแกรมบัญชีรายเดือน ตลอดจนเป็นผู้ควบคุมความปลอดภัยข้อมูลบัญชีเอง

การใช้โปรแกรมบัญชีแบบออฟไลน์อาจมีข้อจำกัด แต่ไม่ได้หมายถึงไม่สามารถใช้งานโปรแกรมนอกสถานที่ เพียงแต่การใช้งานดังกล่าว จะต้องใช้งานผ่านเครือข่ายสื่อสาร ซึ่งผู้ใช้จะต้องลงทุนระบบดังกล่าวเอง ตลอดจนต้องเปิดใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและระบบเครือข่ายเพื่อรองรับการใช้งานดังกล่าว รวมทั้งจัดเตรียมระบบคอมพิวเตอร์สำรอง ข้อมูลสำรอง เพื่อรองรับการใช้งานอย่างต่อเนื่องเอง

1. โปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK

รายชื่อโปรแกรมบัญชี - PEAK
โปรแกรมบัญชี – PEAK : ที่มา PEAK Account

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK เป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ทำงานบนระบบ Cloud ธุรกิจซื้อมาขายไป ธุรกิจบริการ ธุรกิจ e-Commerce ที่สามารถรองรับการใช้งานบัญชี การจัดทำรายงานบัญชี และงบการเงินสอดคล้องตามมาตรฐานการบัญชี ตลอดจนสามารถรองรับการทำงานที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงระบบเงินเดือน ภาษี ระบบสต๊อกสินค้า การเชื่อมต่อกับระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ การออกใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล ในเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และการรับชำระเงินออนไลน์

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ PEAK มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ครอบคลุมถึงระบบบัญชีที่รองรับธุรกิจในลักษณะต่าง ๆ และเปิดโอกาสให้ใช้งาน ฟรีสำหรับผู้เริ่มต้นสำหรับธุรกิจที่มี 1 ผู้ใช้งาน มีสินค้าไม่เกิน 5 รายการ และผู้ติดต่อสูงสุดไม่เกิน 20 รายการ และราคารายเดือนสำหรับกิจการที่ต้องการใช้งานในปริมาณและฟังก์ชั่นการทำงานมากขึ้น ในราคาเริ่มต้น 500 บาทต่อเดือนสำหรับ 5 ผู้ใช้งาน โดยลูกค้าสามารถทดลองใช้งานทุก Package ฟรี เป็นเวลา 30 วัน

2. โปรแกรมบัญชี Express

โปรแกรมบัญชี EXPRESS
โปรแกรมบัญชี

โปรแกรมบัญชี Express เป็นโปรแกรมบัญชีที่ได้รับความนิยม และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี โดยในระยะเริ่มแรกทำงานบนระบบปฏิบัติการ DOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมในขณะนั้น (แต่สามารถใช้งานโปรแกรม Express DOS บนระบบงาน Windows โปรแกรมจำลองระบบปฎิบัติการแบบ MS-DOS เพื่อใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Windows) ก่อนที่จะพัฒนาบนระบบ Windows ประกอบด้วยโปรแกรม Express Windows Signgle เพื่อรองรับการใช้งานบนเครื่องเดี่ยว (Stand-alone Computer) และ โปรแกรม Express Windows LAN เพื่อรองรับการใช้งานบนระบบเครือข่าย (Local Area Network) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานร่วมกันผ่านระบบเครือข่ายภายในของกิจการ (แต่สามารถ Upgrade จากเวอร์ชั่นเก่าไปสู่เวอร์ชั่นใหม่โดยมีค่า Upgrade ตามอัตราที่กำหด) นอกจากนี้ยังไม่โปรแกรม Express ที่ทำงานบนระบบ Cloud

ฟังก์ชั่นการทำงานของโปรแกรม Express รองรับการทำบัญชีตามมาตรฐานบัญชี รวมทั้งระบบเงินเดือน และระบบที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งรองรับการทำงานตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร รวม 12 ระบบ ประกอบด้วย ระบบบัญชีแยกประเภท ระบบสินทรัพย์ถาวร ระบบควบคุมเช็คและเงินฝากธนาคาร ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ระบบจัดซื้อสินค้าและการรับสินค้า ระบบควบคุมสินค้าคงคลัง ระบบควบคุมเจ้าหนี้และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ระบบวิเคราะห์การซื้อ ระบบการจองสินค้าและการจัดจำหน่าย ระบบควบคุมลูกหนี้และรายได้อื่น ๆ และระบบวิเคราะห์การขาย ตลอดจนสามารถสร้างงบการเงินให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจในแต่ละประเภท

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโปรแกรม Express มีหลายรูปแบบ มีทั้งรูปแบบการซื้อโปรแกรมแบบซื้อขาดโดยชำระเงินในครั้งเดียว และการเช่าบริการใช้งานบน Cloud โดยจ่ายค่าเช่ารายเดือนแทนการชำระเงินก้อนใหญ่ในครั้งเดียว ในการพิจารณาเลือกใช้โปรแกรม Express จึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับธุรกิจ ซึ่งจำแนกออกเป็น 2 รูปแบบหลัก คือ

โปรแกรม Express ที่ทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า

โปรแกรม Express ที่ทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า เป็นการใช้โปรแกรมแบบซื้อขาดโดยจ่ายเงินก้อนใหญ่เพียงครั้งเดียว โดยมีรูปแบบให้เลือก 2 ประเภท คือ โปรแกรมที่ทำงานบนเครื่องพีซีของลูกค้าเพียงเครื่องเดียว (Stand-alone Computer) เพื่อใช้งานในกิจการขนาดเล็กที่ใช้งานทำบัญชีเพียงเครื่องเดียว ในราคาเริ่มต้นประมาณ 19,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และโปรแกรมที่ทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายของลูกค้า (Local Area Network) โดยติดตั้งโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเพื่อใช้งานผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ลูกข่ายภายในอาคารเดียวกัน ในราคาเริ่มต้นประมาณ 31,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ในกรณีที่ต้องการใช้โปรแกรมบัญชีที่รองรับภาษาอังกฤษ จะมีราคาเพิ่มประมาณ 8,000 บาท

นอกจากนี้ ธุรกิจที่เลือกใช้โปรแกรมที่ทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า ยังต้องต้องลงทุนในเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ Windows Server และโปรแกรมที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนต้องลงทุนระบบเครือข่ายสื่อสาร ระบบสำรองข้อมูล ระบบป้องกันไวรัส และต้องมีมีบุคลากรไอทีเพื่อควบคุมดูแลการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ การใช้งานบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า ยังมีข้อจำกัดในการใช้งานภายนอกหน่วยงาน และการใช้งาน Work From Home

โปรแกรม Express ที่ทำงานบน Cloud

ผู้ให้บริการโปรแกรม Express ยังให้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ผ่าน Cloud โดยลูกค้าไม่ต้องลงทุนระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย ตลอดจนลงทุนในบุคลากรและระบบที่เกี่ยวข้อง
เป็นเงินก้อนใหญ่ โดยสามารถเลือกใช้บริการโปรแกรมบัญชี Express Online ผ่าน Cloud โดยเสียค่าเช่าบริการตามจำนวนผู้ใช้งาน ในราคา 380 บาทต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งาน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

3. โปรแกรมบัญชี Flow Account

โปรแกรมบัญชี Flow Account
โปรแกรมบัญชี Flow Account : ที่มา Flow Account

โปรแกรมบัญชี Flow Account เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ทำงานบน Cloud ซึ่งสามารถรองรับการใช้งานภายในหน่วยงาน และการใช้งานนอกสถานที่ รวมถึงการใช้งาน
ผ่าน Work From Home โดยไม่ต้องลงทุนในเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ บุคลากรไอที และระบบเครือข่าย แต่จ่ายค่าเช่าใช้บริการเป็นรายเดือน หรือรายปี (ในราคาส่วนลด 17%)

ฟังก์ชั่นการทำงานของโปรแกรมครอบคลุมถึงการทำบัญชีตามมาตรฐานบัญชี และข้อกำหนดของกรมสรรพากร และรองรับการใช้งานในทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การเปิดบิล การบันทึกรายการทางบัญชีการจัดการบัญชีและภาษี ตลอดจนรองรับการทำงานโปรแกรมการขายของหน้าร้าน (Point Of Sale – POS) ซึ่งโปรแกรมขายของหน้าร้าน จะเชื่อมต่อกับระบบสต๊อก และลงบัญชีไปพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า Straight-through processing (STP) โดยไม่ต้องบันทึกรายการบัญชีซ้ำซ้อน และรองรับการระบบเงินเดือนทั้งในส่วนของการคำนวณและเตรียมจ่ายเงินเดือน การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายและประกันสังคม พร้อมอ๊อฟชั่นการเตรียมไฟล์ยื่นภาษีหัก ณ ที่จ่าย (ภงด. 1 และ ภงด. 1ก) ประกันสังคมออนไลน์ และ การสร้างไฟล์จ่ายเงินเดือนธนาคารให้กับธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการโปรแกรมบัญชี Package Pro Business ในราคา 549 บาทต่อเดือน

ผู้สนใจใช้บริการโปรแกรม Flow Account สามารถเลือกใช้บริการใน Package ที่เหมาะสมกับธุรกิจ ซึ่งมีทั้งการใช้บริการฟรีสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งสามารถใช้งานได้จำกัด และ Package
ในราคาเริ่มต้น 199 บาทต่อเดือน สำหรับ 1 บัญชีผู้ใช้งาน

3. โปรแกรมบัญชี SMEMOVE

โปรแกรมบัญชี SME Move
โปรแกรมบัญชี SME Move

โปรแกรมบัญชี SMEMOVE เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ประมวลผลบน Cloud ที่เหมาะสมกับธุรกิจ SME ที่รองรับการทำบัญชีตามมาตรการบัญชี สามารถรองรับการขายหน้าร้านผ่าน Poin-Of-Sale (POS) ผ่านเครื่องยิงบาร์โค๊ดตามมาตรฐาน Code, EAN-8 และ EAN-13 การกำหนดสูตรการผลิต การคำนวณต้นทุนสินค้า (แบบเข้าก่อนออกก่อน หรือ FIFO) ระบบสต็อค คลังสินค้า และการบันทึกรายการผ่านบาร์โค็ด ระบบ e-Tax Invoice และการจัดส่งผ่านอีเมล์ และมีระบบรองรับการทำเงินเดือน ระบบลงเวลาเข้า-ออกการทำงาน การคำนวณโอที การยื่นแบบประกันสังคม และการนำส่งสรรพากร ซึ่งเหมาะกับธุรกิจบริการ ซื้อมาขายไป รับเหมาก่อสร้าง และสามารถรองรับธุรกิจการผลิตในระดับหนึ่ง

สำหรับค่าบริการการใช้โปรแกรมบัญชี SMEMOVE สามารถขอใช้บริการฟรีสำหรับผู้เริ่มต้นที่มีจำนวนผู้ใช้งาน 1 บัญชี จำนวนพนักงานในระบบเงินเดือนไม่เกิน 3 คน และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลไม่เกิน 200 MB (คิดจากไฟล์ที่อัพโหลดเข้าสู่ระบบเท่านั้น) และไม่สามารถใช้งานในบางฟังก์ชั่น เช่น ระบบหน้าร้าน การออก e-Tax และระบบคลังสินค้า เป็นต้น สำหรับการใช้บริการแบบจ่ายค่าเช่ารายเดือนเริ่มต้นที่ 199 บาทต่อเดือน โดยจะได้รับสิทธิการใช้งานมากขึ้น เช่น จำนวนผู้ใช้ พื้นที่เก็บข้อมูล รูปแบบเอกสารและรายงาน และจำนวนพนักงานในระบบเงินเดือนมากขึ้น เป็นต้น

4. โปรแกรมบัญชี TRCLOUD

โปรแกรมบัญชี TRCLOUD
โปรแกรมบัญชี TRCLOUD : ที่มา TRCLOUD

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ TRCLOUD เป็นโปรแกรมบัญชีที่มีฟังก์ชั่นการทำงานที่รองรับการใช้งานตามมาตรฐานการบัญชี กรมสรรพากร ระบบ E-tax Invoice โดยระบบบัญชี TRCLOUD ประกอบด้วย Basic TRCLOUD ซึ่งประกอบด้วยการบันทึกรายการบัญชีและรายงานทางการเงินโดยทั่วไป รวมถึงการลงบัญชีโดยอัตโนมัติ (Smart GL Automator) ระบบคลังสินค้าและการเบิกสินค้า ระบบการเงินและการวิเคราะห์ข้อมูล ระบบการมัดจำ ระบบเช็ค ระบบคาดการณ์กระแสเงินสด (Cashflow Prediction) ระบบขายหน้าร้าน (Point of Sales) ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบลดหนี้ ใบวางบิล Invoice ใบสั่งซื้อ ใบเสร็จขาย ระบบบริหารทรัพย์สิน และโปรแกรมส่วนเพิ่มอื่น ๆ เช่น ระบบบัญชีสำนักงานและสาขา ระบบเชื่อมต่อกับร้านค้าออนไลน์ใน Market Place เช่น Shopee, Lazada, Tiktok Shopping, Line Shopping โดยโปรแกรมดังกล่าวมีการออกแบบเพื่อรองรับการทำธุรกิจ และการบันทึกรายการบัญชีแบบอัตโนมัติ และมีระบบบัญชีเพื่อรองรับธุรกิจร้านอาหาร ระบบบัญชีสำหรับการจัดการงานโครงการ การเชื่อมต่อกับร้านค้าออนไลน์บนเว็บซื้อขายออนไลน์ของลูกค้าผ่านระบบ WooCommerce บน WordPress เป็นต้น

โปรแกรม TRCOLUD สามารถรองรับธุรกิจที่่หลากหลายประเภทและหลากหลายขนาด เหมาะกับการใช้งานในลักษณะพิเศษ โดยการเช่าโปรแกรมออนไลน์ TRCLOUD ขึ้นกับลักษณะและปริมาณการใช้งาน โดยผู้สนใจสามารถสอบถามค่าบริการจากผู้ให้บริการโดยตรง

5. โปรแกรมบัญชี CD ORGANIZER

โปรแกรมบัญชี CD-Organizer
โปรแกรมบัญชี CD-Organizer

โปรแกรมบัญชี CD ORGANIZER เป็นโปรแกรมบัญชีแบบครบวงจรที่ทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า ซึ่งมีการใช้งานมานานมากกว่า 30 ปี และเหมาะกับธุรกิยซื้อมา-ขายไป
ธุรกิจบริการ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจขายเงินผ่อน โดยผู้ใช้ต้องซื้อโปรแกรมเพื่อติดตั้งบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า และต้องลงทุนในเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ การสำรองข้อมูล ระบบคอมพิวเตอร์สำรอง ระบบป้องกันไวรัส ระบบรักษาความปลอดภัย และมีบุคคลากรด้านไอทีเพื่อดูแลและบำรุงรักษาระบบคอมพิวเตอร์ และเนื่องจากโปรแกรมดังกล่าวทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า จึงเหมาะสำหรับการใช้งานภายในหน่วยงาน แต่อาจมีข้อจำกัดในการใช้งานนอกสถานที่ และการใช้งาน Work From Home (สามารถใช้งานนอกสถานที่ได้ แต่ต้องลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของระบบเครือข่ายสื่อสาร และต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเพื่อรองรับการใช้งาน)

ฟังก์ชั่นการทำงานของโปรแกรม CD ORGANIZER ครอบคลุมการทำงานแบบครบวงจร สามารถรองรับการทำบัญชีตามมาตรฐานการบัญชี และกรมสรรพากร และสะดวกต่อการใช้งานผ่านเมนู โดยเชื่อมโยงกับระบบระบบที่เกี่ยวข้อง 18 ระบบ เช่น ระบบซื้อ/จอง/ต้นทุน ระบบขาย/จอง/คอมมิชชั่น ระบบรับเงิน/บริหารลูกหนี้ ระบบจ่ายเงิน/บริหารเจ้าหนี้ ระบบรับจ่่ายโอน/บริหารคลังสินค้า ระบบบัญชีทั่วไป/งบการเงิน ระบบเช็ค/บริหาร Cash Flow ระบบทรัพย์สิน/ค่าเสื่อม เป็นต้น โดยทุกระบบจะส่งข้อมูลเชื่อมโยงถึงกันเช่นเดียวกับโปรแกรมบัญชีทั่วไป ทำให้ลดการทำงานซ้ำซ้อน และมีการทำงานแบบปรับปรุงข้อมูลทันที สามารถรองรับเมนู การทำงานทั้งภาษาไทย และอังกฤษ และมีรายงานช่วยงานด้านบัญชี และข้อมูลด้านบริหารมากกว่า 400 รายงาน

ผู้ใช้โปรแกรม CD Organizier จะต้องจ่ายเงินซื้อโปรแกรมในครั้งเดียวในราคาเริ่มต้น 21,900 สำหรับการใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว (Stand-alone Computer)
และราคา 29,000 บาท สำหรับการใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย สำหรับการใช้งานหลายเครื่อง และระบบการผลิต (ERP) ในราคา 56,900 บาท

6. โปรแกรมบัญชี AccRevo

โปรแกรมบัญชี ACCREVO
โปรแกรมบัญชี ACCREVO : ที่มา ACCREVO

โปรแกรม AccRevo ประกอบด้วย 3 ระบบ คือ

AccRevo Accistant

AccRevo Accistant เป็นโปรแกรมบัญชีสำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่รองรับรายการบัญชีตามมาตรฐานการบัญชีที่เป็นพื้นฐานสำหรับงานบัญชี และกรมสรรพากร ครอบคลุมถึงระบบจัดการลูกหนี้ ระบบจัดการเจ้าหนี้ ระบบจัดการ สินค้าคงคลัง และระบบรายงานภาษี พร้อมเอกสารรองรับการปฏิบัติงานในทั้งกระบวนการทั้งในส่วนของใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน ใบสั่งซื้อ ใบรับสินค้า ใบสำคัญจ่าย ใบรับรองแทนใบเสร็จ หนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย รายงานการขาย รายงานภาษี รายงานลูกหนี้ รายงานเจ้าหนี้ ในราคาค่าใช้งาน 3,000 บาท ต่อปี ต่อบริษัท โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้งาน และพื้นที่จัดเก็บเอกสารออนไลน์

AccRevoX

AccRevoX เป็นโปรแกรมจัดการธุรกิจแบบดิจิทัล On Cloud แบบครบวงจร (One Stop Solution for Business) ซึ่งนอกจากจะรองรับการทำบัญชี ในระดับพื้นฐานแล้ว ยังครอบคลุมถึงระบบจัดการลูกหนี้ ระบบจัดการเจ้าหนี้ ระบบจัดการสินค้าคงเหลือ ระบบรายงานภาษี และเอกสารการปฏิบัติงานเพิ่มเติม เช่น ใบวางบิล ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบขอซื้อ สมุดรายวัน 5 เล่ม ราคาสินค้าแบบแยก VAT รวม VAT รองรับการใช้งานหลายบริษัท รองรับการออกเอกสารแยกสาขา เป็นต้น และรายงานทางการบัญชี ประกอบด้วยรายงานการขาย รายงานภาษี รายงานลูกหนี้ รายงานเจ้าหนี้ รายงานงบกำไรขาดทุน รายงานงบแสดงฐานะทางการเงิน งบทดลอง บัญชีแยกประเภท รายละเอียดประกอบงบการเงิน โดยมีราคาเริ่มต้น 5,000 บาทต่อปี ต่อบริษัท ต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งาน สำหรับระบบ AccRevoX และราคาเริ่มต้น 10,000 บาทต่อปี ต่อบัญชีผู้ใช้งาน 2 บัญชี พร้อมฟังก์ชั่น
การทำงานที่ครอบคลุมถึงธุรกิจที่มีเครือข่ายสาขาสำหรับระบบ AccRevo Enterprise

AccRevo The Book

AccRevo The Book เป็นโปรแกรมบันทึกบัญชีอัตโนมัติที่ทำงานร่วมกับ AccRevo Accistant เพื่อรองรับระบบบัญชีย่อยพร้อมระบบสมุดรายวัน 5 เล่ม ระบบลูกหน้ เจ้าหนี้ ระบบทรัพย์สินถาวร ระบบภาษีหัก ณ ที่จ่าย และระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม ในราคาค่าใช้งาน 3,000 บาท ต่อปี ต่อบริษัท

7. โปรแกรมบัญชี AccCloud

โปรแกรมบัญชี AccCloud
โปรแกรมบัญชี AccCloud : ที่มา AccCloud

โปรแกรมบัญชีออนไลน์ AccCloud เป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ทำงานบนระบบ Cloud รองรับการทำบัญชีตามมาตรฐานการบัญชี และกรมสรรพากร ตลอดจนรองรับระบบบัญชีย่อยประกอบด้วยระบบจัดการลูกหนี้ ระบบจัดการเจ้าหนี้ ระบบจัดการสินค้าคงเหลือ ระบบรายงานภาษี ระบบจัดการสาขา และมีเอกสารรองรับการทำธุรกิจตั้งแต่ใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ ใบวางบิล ใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษี ใบขอซื้อ ใบสั่งซื้อ ใบรับสินค้า เอกสารตั้งหนี้ ใบสำคัญจ่าย ใบรับรองแทนใบเสร็จ และหนังสือรับรองภาษีหัก ณ ที่จ่าย รองรับการใช้งานหลายบริษัท และการออกเอกสารแยกสาขา

นอกจากนี้ โปรแกรมบัญชี AccCloud ยังมีระบบเสริมเพื่อเชื่อมต่อกับ Platform Lazada และ Shopee โดยเชื่อมโยงยอดขายจาก Platform มายังโปรแกรมบัญชี AccCloud ERP และมีปลั๊กอินรองรับการเชื่อมต่อกับ Website ขายออนไลน์ และ Sale Pages เพื่อรองรับการชำระเงินผ่าน Omni Channels เพื่อเพิ่มช่องทางการขายและการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ โดยยอดขายจาก Website จะ Link โดยตรงมายังโปรแกรมบัญชี AccCloud ทันที ตลอดจนรองรับระบบฝากขาย โดยที่ผู้ฝากขายสามารถดูสต๊อกได้ในทุกสาขาที่ฝากขาย และสามารถทำกระบวนการทางบัญชีขายฝากได้พร้อม ๆ กัน

ค่าบริการสำหรับการใช้โปรแกรมบัญชี AccCloud แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
(1) ค่าวางระบบ เป็นการคิดค่าใช้จ่ายเมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรกเพียงครั้งเดียว เพื่อเป็นค่าบริการในการติดตั้งโปรแกรมบัญชี การเปิดฐานข้อมูล การนำเข้าฐานข้อมูล การปรับแบบฟอร์มให้เหมาะสมกับลูกค้า การอบรมการขึ้นระบบออนไลน์ รวมถึงการดูแลและแก้ไขปัญหาการใช้งาน จำนวน 9,000 บาท
(2) ค่าใช้บริการรายปี คิดตามจำนวนผู้ใช้งานต่อปี เริ่มจากราคา 5,900 บาทต่อปีต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งาน

8. โปรแกรมบัญชี Busines plus

โปรแกรมบัญชี ฺBusiness plus
โปรแกรมบัญชี ฺBusiness plus : ที่มา ฺBusiness Plus

โปรแกรมบัญชี Business plus เป็นโปรแกรมบัญชีออนไลน์ที่ทำงานบนเครือข่าย Cloud ซึ่่งนอกจากรองรับการทำบัญชีแบบครบวงจร สำหรับธุรกิจซื้อมาขายไป ธุรกิจบริการ ธุรกิจ ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจรับเหมา ครอบคลุมถึงการจัดซื้อ การบริหารสินค้าคงคลัง การบริหารการผลิต จนถึงการบริหารการขาย การคิดค่าคอมมิชชั่นและแคมเปญ ระบบลูกค้าสมาชิก และระบบสะสมแต้ม ตลอดจนการบันทึกบัญชีซื้อ ขาย บัญชีทรัพยสิน ระบบบัญชีลูกหนี้ การวิเคราะห์ลูกหนี้ อายุหนี้ การวิเคราะห์ยอดขาย การกระทบยอด Bank Reconcile การคำนวณภาษี การยื่นภาษี งบการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต และการจัดทำงบการเงินรวมแล้ว ยังครอบคลุมถึงการวิเคราะห์ช้อมูลและการรายงานทางการเงินเพื่อการบริหาร (Business Intelligence) และรองรับการประมวลผลเชื่อมต่อกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง (Enterprise Resource Planning)

โปรแกรมบัญชี Business plus ยังรองรับการทำงานเชื่อมต่อกับ Platform E-Commerce ทั้ง LAZADA, SHOPEE, TIKTOK Shop และ Line MyShop

ค่าบริการในการใช้โปรแกรมบัญชี Business plus สำหรับ SME และ Startup ขึ้นกับลักษณะขนาด ลักษณะธุรกิจ และขอบเขตการใช้งาน ประกอบด้วย
(1) Bplus Mini ERP On Cloud รองรับการทำบัญชีสำหรับธุรกิจ Startup ราคา 3,800 บาท ต่อผู้ใช้งาน 1 บัญชี ต่อการใช้งาน 4 เดือน
(2) Bplus Mini ERP รองรับธุรกิจ SME ขนาดเล็ก ราคา 9,900 บาท ต่อการใช้งาน 1 เครื่อง
(3) Bplus ERP รุ่น Starter สำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้ระบบบัญชีและระบบสนับสนุนเพื่อรองรับการใช้งานที่ซับซ้อน ราคา 20,000 บาท ต่อการใช้งาน 1 เครื่อง

9. โปรแกรมบัญชี Easy Acc

โปรแกรมบัญชี EASY-ACC เป็นโปรแกรมบัญชีที่พัฒนาและใช้งานมานานกว่า 30 ปี เป็นโปรแกรมบัญชียุคต้น ๆ ของเมืองไทยเช่นเดียวกับโปรแกรมบัญชี Express โปรแกรมบัญชีในระยะแรกจะทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของลูกค้าซึ่งมีทั้งแบบการทำงานบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องเดียว (Stand Alone) และการทำงานบนเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายเพื่อรองรับการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ลูกข่ายหลายเครื่อง แต่ก็ยังเป็นการใช้งานภายในหน่วยงานของลูกค้าเป็นหลัก ก่อนที่จะพัฒนาโปรแกรมเวอร์ชั่นที่ทำงานผ่าน Cloud

โปรแกรมบัญชี EASY-ACC รองรับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าธุรกิจซื้อมาขายไป ธุรกิจบริการ อุตสาหกรรมการผลิต และสามารถรองรับการทำบัญชีสอดคล้องตามมาตรฐานการบัญชี และกรมสรรพากร รวมถึงการบันทึกรายการบัญชีซื้อ ขาย รับคืน ส่งคืน ปรับปรุงสินค้า โอนสินค้า ระหว่างคลัง ระบบลูกหนี้และรายได้ ระบบเจ้าหนี้และค่าใช้จ่าย ระบบเงินเดือนและค่าแรง และรายงานทางการบัญชีและการเงิน

โปรแกรมบัญชี EASY-ACC มีการเสนอบริการหลากหลายรูป ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการที่เหมาะสมกับขนาดของกิจการและลักษณะธุรกิจ ดังนี้

โปรแกรม Easy Acc ที่ทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า

โปรแกรม EASY ACC ที่ทำงานบนระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า เป็นการใช้โปรแกรมแบบซื้อขาดโดยจ่ายเงินก้อนใหญ่เพียงครั้งเดียว โดยมีรูปแบบให้เลือก 2 ประเภท คือ
(1) โปรแกรม EASY ACC ชุดรวมโปรแกรมย่อยครบวงจร Standard Version ใช้ติดตั้งได้ทั้งบนเครื่อง PC หรือบนระบบเครือข่าย LAN สามารถใช้งานพร้อมกัน 1-3 บัญชีผู้ใช้ในราคา 16,000 บาท
(2) โปรแกรม EASY ACC ชุดรวมโปรแกรมย่อยครบวงจร Network Version ใช้ติดตั้งได้ทั้งบนเครื่อง PC หรือบนระบบเครือข่าย LAN สามารถใช้งานพร้อมกัน 1-10 Users ในราคา 26,000 บาท
สำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้โปรแกรมบางส่วน สามารถเลือกซื้อโปรแกรมชุดย่อย คือ โปรแกรมบัญชีแยกประเภท โปรแกรมสินค้าคงคลัง โปรแกรมเจ้าหนี้และค่าใช้จ่าย โปรแกรมลูกหนี้และรายได้ โปรแกรมเงินเดือนและค่าแรง เพื่อรองรับการใช้งานเฉพาะส่วน

โปรแกรม Easy Acc ที่ทำงานบน Cloud

ผู้ให้บริการโปรแกรม Easy Acc ยังพัฒนาโปรแกรมบัญชีออนไลน์ผ่านผ่าน Cloud โดยลูกค้าไม่ต้องลงทุนระบบคอมพิวเตอร์ ระบบเครือข่าย ตลอดจนลงทุนในบุคลากรและระบบที่เกี่ยวข้องเป็นเงินก้อนใหญ่ และไม่ต้องซื้อโปรแกรม Easy Acc แบบซื้อขาด โดยสามารถเช่าใช้บริการผ่าน Cloud โดยเสียค่าเช่าบริการตามจำนวนผู้ใช้งาน ในราคาเดือนล่ะ 380 บาทต่อ 1 บัญชีผู้ใช้งาน

https://www.tfac.or.th/Article/Detail/177358