สงครามสุกี้ ตอนที่ 2 เอ็มเค ผู้นำตลาดสุกี้

เอ็มเค ผู้นำตลาดสุกี้
เอ็มเค ผู้นำตลาดสุกี้

เอ็มเค ผู้นำตลาดสุกี้

จากบทความใน สงครามสุกี้ – ตอนที่ 1 ภาพรวมตลาดสุกี้ ในตอนนี้จะกล่าวถึง “เอ็มเค ผู้นำตลาดสุกี้” ก่อนที่จะเข้าสู่การวิเคราะห์ SWOT Analysis คู่แข่งขัน และกลยุทธ์การแข่งขันในสงครามสุกี้ในตอนต่อ ๆ ไป

ในโลกของอาหารที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว “เอ็มเค” ยังคงยืนหยัดเป็นแบรนด์สุกี้อันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้วยจุดแข็งที่ผสมผสานระหว่างคุณภาพ ความสะอาด และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่อบอุ่น เอ็มเคไม่เพียงแต่เป็นร้านอาหาร แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความสุขในครอบครัวและมิตรภาพ สอดคล้องกับกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้ปานกลาง ทำให้ เอ็มเค เป็นผู้นำตลาดสุกี้มาอย่างยาวนาน

จากจุดเริ่มต้นของร้านอาหารไทยคูหาเดียวที่ตั้งอยู่ในภายศูนย์การค้าสยามสแควร์ ดำเนินกิจการโดย ทองคำ เมฆโต ซึ่งซื้อกิจการมาจากมาคอง คิงยี (Markon Kingyee – MK) ชาวฮ่องกง เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2505 ในปี 2527 เปิดร้านอาหารไทยภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ด้วยชื่อร้านใหม่ว่า “ร้านกรีน เอ็มเค” ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เอ็มเค เป็นผู้นำตลาดสุกี้

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2529 ร้านกรีนเอ็มเคก็เปลี่ยนมาเป็น “ร้านสุกี้เอ็มเค” สาขาแรก และขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้านสุกี้เอ็มเค มีจำนวนมากกว่า 400 สาขาในประเทศไทย ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้า โมเดิร์นเทรด และคอมมูนิตีมอลล์ และมีสาขาในต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น เวียดนาม สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจร้านอาหารในเครือหลายธุรกิจ

วิสัยทัศน์ (Vision) ของเอ็มเค ผู้นำตลาดสุกี้

“เติมเต็มความสุขให้ทุกครอบครัว”

พันธกิจ (Mission)

  • สร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำ
  • ทำให้สุขภาพที่ดีเข้าถึงได้มากที่สุด
  • เสริมสร้างความสามัคคีและสนับสนุนความแตกต่างของผู้คน
  • ส่งเสริมความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม

จากรายงานแบบ 56-1 One Report 2567 ของ MK Group มีการกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของร้านอาหารในเครือ ซึ่งส่วนใหญ่จะกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้ปานกลาง ดังนี้

ร้านอาหาร

กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

ร้านเอ็มเค สุกี้

กลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้ปานกลาง

ร้านเอ็มเค โกลด์

กลุ่มครอบครัว กลุ่นคนทำงาน ที่มีรายได้ปานกลาง-สูง

ร้านเอ็มเค ไลฟ์

กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย

ร้านยาโยอิ

กลุ่มคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้ปานกลาง

ร้านฮากาตะ

กลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้ปานกลาง

ร้านมิยาซากิ

กลุ่มครอบครัว กลุ่นคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้ปานกลาง

ร้านฮิคินิคุ โตะ โคเมะ

กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย

ร้านแหลมเจริญ ซีฟู้ด

กลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน ที่มีรายได้ปานกลาง-สูง และชาวต่างชาต

ร้าน ณ สยาม

กลุ่มครอบครัวและกลุ่มคนทำงาน ที่มีรายได้ปานกลาง-สูง

ร้านเลอ สยาม

กลุ่มครอบครัวและกลุ่มคนทำงาน ที่มีรายได้ปานกลาง-สูง และชาวต่างชาติ

ร้านบิซซี่ บ็อก

กลุ่มคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้ปานกลาง

ร้านเลอ เพอทิท

กลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้
ปานกลาง

อย่างไรก็ตาม การวางตำแหน่งของร้านและการกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เน้นกลุ่มครอบครัว กลุ่มคนทำงาน กลุ่มนักเรียนและนักศึกษา และกลุ่มวัยรุ่น ที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งไม่ครอบคลุมในทุกกลุ่มลูกค้า ทำให้เปิดช่องให้คู่แข่งเข้าสู่ตลาด ซึ่งจะกล่าวถึงรายละเอียดในตอนต่อไป

บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจร้านเอ็มเค สุกี้ ร้านเอ็มเค โกลด์ และร้านเอ็มเค ไลฟ์ ร้านอาหารไทย ณ สยาม และเลอ สยาม ร้านอาหารญี่ปุ่น
มิยาซากิและฮากาตะ ร้านอาหารอื่น ๆ ได้แก่ ร้านกาแฟ/เบเอกรี่ เลอ เพอทิท และร้านบิซซี่บ็อกซ์ แฟรนไซส์ในต่างประเทศ นอกจากนี้ เอ็มเค กรุ๊ป ยังมีบริษัทย่อย ดังนี้

และบริษัทย่อยล่าสุด คือ บริษัทคุ้มคุ้ม จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจร้านโบนัสสุกี้

🏆 สรุป

ตลอดระยะเวลา 63 ปีที่ผ่านมา “เอ็มเค” ไม่เพียงแต่เป็นผู้บุกเบิกร้านสุกี้บนห้างสรรพสินค้า และมีจำนวนสาขามากกว่า 400 สาขา แต่ “เอ็มเค” ยังมีการวางระบบเพื่อรองรับการเติบโตในทั้งกระบวนการ ทั้งในส่วนของการควบคุมคุณภาพวัติถุดิบ มีระบบ Supply Chain ที่แข็งแกร่ง มีเครือข่่ายสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ ตลอดจนให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคคลากร การพัฒนาและควบคุมรสชาติของอาหารให้ได้มาตรฐาน และประสิทธิภาพของการให้บริการ ทำให้ “เอ็มเค” เติบโดตอย่างมั่นคง อย่างไรก็ตามการกำหนดกลยุทธ์ด้านราคา การกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย และการวางเครือข่ายสาขา ที่ยังไม่สอดคล้องและไม่ครอบคลุมในทุกกลุ่มลูกค้า ทำให้มีช่องทางให้คู่แข่งรายใหม่เข้าสู่ตลาด ซึ่งนำไปสู่สงครามสุกี้ในเวลาต่อมา ซึ่งจะกล่าวถึงใน สงครามสุกี้ ตอนที่ 3 SWOT ของเอ็มเค และตอนถัด ๆ ไป

บทความที่เกี่ยวข้อง